“ยูทูบ” ปลดพนักงานกว่า 100 คน เผยตลอดปีจะมีปลดอีกเรื่อย ๆ
หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน กูเกิล (Google) ได้ปลดพนักงานมากกว่า 1,000 ตำแหน่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา ยูทูบ (YouTube) แพลตฟอร์มวิดีโอรายใหญ่ของโลกซึ่งกูเกิลเป็นเจ้าของ ก็ได้ประกาศปลดพนักงานกว่า 100 คน และบอกว่าจะค่อย ๆ เลิกจ้างพนักงานทีละน้อยต่อไปอีก
ฝ่ายปฏิบัติการของยูทูบและทีมผู้บริหารได้ส่งอีเมลแจ้งต่อพนักงานที่ได้รับผลกระทบว่า พวกเขาถูกปลดแล้ว
โบอิ้งอีกแล้ว! เครื่องบินขนส่งสินค้าไฟลุกกลางอากาศ ต้องลงจอดฉุกเฉิน
ไฟไหม้โรงเรียนแห่งหนึ่งในจีน นักเรียน ป.3 เสียชีวิต 13 ราย คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ญี่ปุ่นทำสำเร็จ! ส่งยานลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์เป็นชาติที่ 5 ของโลก
แมรี เอลเลน โค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของยูทูบระบุในบันทึกถึงพนักงานว่า “เราได้ตัดสินใจที่จะขจัดบทบาทบางอย่างและกล่าวคำอำลาเพื่อนร่วมทีมของเราในองค์กร ใครก็ตามในอเมริกาและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่อาจได้รับผลกระทบ จะได้รับแจ้งภายในสิ้นวันนี้”
ยูทูบกำลังอยู่ในช่วงพยายามฟื้นตัวอย่างเต็มที่จากการชะลอตัวของโฆษณาในปีที่ผ่านมา และต้องต่อสู้กับการแข่งขันที่รุนแรงจาก TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้วัยรุ่น
นั่นทำให้กูเกิลมองหาวิธีลดต้นทุนและลดพนักงาน โดยก่อนหน้านี้ก็ได้ปลดพนักงานกว่า 1,000 ตำแหน่งออกจากแผนกวิศวกรรม ผลิตภัณฑ์สั่งงานด้วยเสียง Google Assistant และบางโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนดลยี AR (Augmented Reality)
แอนเดรีย ฟาวิลล์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของยูทูบ กล่าวว่า “เราลงทุนในสิ่งที่มีลำดับความสำคัญใหญ่ที่สุดของบริษัทและโอกาสสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า … บางทีมของกูเกิลจะยังคงทำการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ต่อไป ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานบางส่วนทั่วโลก”
ในบันทึกถึงพนักงาน ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล กล่าวว่า พนักงานควรคาดหวังว่าจะได้เห็นการปรับลดพนักงานอีกในช่วงที่เหลือของปี แต่ไม่ใหญ่เท่ากับที่บริษัทประสบในปีที่แล้ว
นับตั้งแต่ปีใหม่ 2024 เริ่มต้น บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งได้ประกาศลดพนักงานกันอย่างถ้วนหน้า เช่น ดิสคอร์ด (Discord) ที่จะเลิกจ้างพนักงาน 17% หรือแอมะซอน (Amazon) ที่ปลดพนักงานหลายร้อยคนออกจาก Twitch, Prime Video และ MGM Studios ยังมี ซีรอกซ์ (Xerox) ที่จะลดพนักงาน 15% จากทั้งหมด 23,000 คน และ Unity Software ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์วิดีโอเกมกล่าวว่าจะลดพนักงานลง 25%
เรียบเรียงจาก New York Times